ทับทิม
ทองกวาว


ออื่น ๆ : จอมทอง (ภาคเหนือ), ทองกวาวต้น (ภาคกลาง), กวาวก้าว (พายัพ) ทองพรมชาติ, ทองธรรมชาติ, จาน(ภาคอีสาน), ทองต้น (ราชบุรี), จ้า (เขมร)

ชื่อสามัญ : Flame of the forest.

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Butea monosperma O. Ktze.

วงศ์ : LEGUMINOSAE

ลักษณะทั่วไป :

ต้น : เป็นพรรณไม้ยืนต้น ที่มีทั้งขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ มีความสูงประมาณ 6-12 เมตร

ลักษณะของเปลือกลำต้นเป็นปมเป็นปุ่ม ไม่เรียบเกลี้ยง ผิวมีสีน้ำตาลหม่น ๆ

ใบ : ใบเป็นสีเขียว พื้นผิวใบเกลี้ยงเป็นมัน ใบออกเป็นก้านยาว ก้านหนึ่งมี ใบย่อยอยู่ 3 ใบ ใบมีลักษณะเป็นรูปค่อนข้างกลม ใบกว้างราว 2.5-9 นิ้ว ยาวราว3.4-10.5 นิ้วลักษณะคล้ายกับใบทองหลางใบมน

ดอก : ดอกออกเป็นช่อ รูปลักษณะของดอกคล้ายกับดอกทองหลาง ดอกเป็นสีแดง ขนาดใหญ่

ผล : ผลมีลักษณะเป็นฝักแข็ง เปลือกนอกมีสีเป็นสีน้ำตาลอ่อนภายในฝักมีเมล็ด ขนาดเล็ก เป็นสีน้ำตาลแก่

การขยายพันธุ์ : เป็นพรรณไม้ที่เกิดขึ้นเองตามพื้นที่ลุ่มต่ำ หรือตามป่าราบ

ส่วนที่ใช้ : ใบ ดอก ฝัก เมล็ด ราก

สรรพคุณ :

ใบ ใช้ใบสดนำมาต้มเอาน้ำกิน เป็นยาแก้ปวด ขับพยาธิ ถอนพิษ แก้ท้องขึ้น แก้ริดสีดวงทวาร นำใบสดมาตำให้ละเอียดใช้พอกสิว และฝีเป็นต้น

ดอก ใช้ดอกสดมาต้มเอาน้ำรับประทานเป็นยา แก้ถอนพิษไข้ ช่วยขับปัสสาวะ หรือนำเอาน้ำมาผสมกับยาหยอดตาแก้โรคตามัว หรือเจ็บตา เป็นต้น ฝัก นำมาต้มเอาน้ำดื่ม เป็นยาขับถ่ายพยาธิ

เมล็ด นำเมล็ดมาตำให้ละเอียดแล้วใช้ผสมกับน้ำมะนาว ใช้บริเวณที่เป็นผื่นคัน หรือเป็นแผลอักเสบเนื่องจากเป็นโรคผิวหนัง หรือนำเมล็ดมาต้มใช้น้ำกินเป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือน เป็นต้น

ราก นำรากสดมาต้ม ใช้น้ำรับประทาน เป็นยาแก้โรคประสาททุกชนิด และใช้เป็นยาบำรุงธาตุอีกด้วย

ถิ่นที่อยู่ : ทองกวาว เป็นพรรณไม้ที่มีมากในภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคอีสาน ของประเทศไทย

หมายเหตุ : พจนานุกรม สมุนไพรไทย ดร.วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม


ทองพันชั่ง
ทองกวาว
ท้อ
ทรงบาดาล
เถาเอ็นอ่อน
เถาย่านาง
เถาสิงโต
เถาวัลย์ปูน
เถายางน่อง
 

นางสาว อรอุมา บุญสิว ชั้นม.4/5 เลขที่ 42